การประชุมที่ Synod of Whitby: การรวมศาสนาของชาวอังกฤษและความขัดแย้งทางการเมืองในยุคคริสต์ศักราชที่ 7

Synod of Whitby หรือ “สภาวิทบี้” เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์อังกฤษโบราณ ที่เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.664 ซึ่งเป็นการประชุมของเหล่านักบวชและผู้นำทางศาสนาจากทั่วทั้งอาณาจักร Northumbria เพื่อตัดสินว่าจะปฏิบัติตามแบบแผนทางศาสนาแบบใดระหว่างขนบธรรมเนียมของชาวโรมันกับแบบอย่างของชาวไอริช
ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7 อังกฤษถูกแบ่งแยกออกเป็นอาณาจักรย่อยๆ ซึ่งแต่ละอาณาจักรก็ปฏิบัติตามประเพณีทางศาสนาที่แตกต่างกัน ในขณะที่ชาวโรมันนิกานถือวันที่ 19 เมษายนเป็นวันฉลองอีสเตอร์ (Easter) และการตัดผมแบบ Roman tonsure ชาวไอริชซึ่งมีอิทธิพลใน Northumbria ปฏิบัติตามแบบแผนของนักบวชเซนต์โคลัมบาโดยเฉลิมฉลองวันอีสเตอร์เมื่อวันที่ 14 มีนาคม และไว้ผมยาว
ความขัดแย้งทางศาสนานี้ได้จุดชนวนขึ้นมาหลังจากที่ พระเจ้าออสตริด (King Oswy) ผู้ปกครอง Northumbria ได้ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะรวมอาณาจักรของพระองค์เข้ากับศาสนา Chrisitianity ในรูปแบบเดียวกัน
สภาวิทบี้จึงถูกจัดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งนี้ โดยมีนักบุญ Wilfred นักบวชชาวโรมัน และนักบุญ Coloman นักบวชชาวไอริช เป็นตัวแทนของสองฝ่ายที่ต่อกรกัน
การอภิปรายในสภาเต็มไปด้วยความร้อนแรง ผู้คนต่างโต้เถียงกันอย่างรุนแรงถึงความถูกต้องและความผิดพลาดของทั้งสองแบบแผนทางศาสนา
หลังจากการพิจารณาอย่างรอบคอบ พระเจ้าออสตริดทรงตัดสินใจเลือกตามแบบแผนของชาวโรมัน โดยพระองค์ทรงเห็นว่าประเพณีของชาวโรมันนั้นมีความสอดคล้องกับหลักคำสอนของศาสนา Chrisitianity มากกว่า
ความเป็นไปได้ที่ออสตริดได้รับอิทธิพลจากภรรยาของพระองค์ ซึ่งเป็นชาวโรมัน นั้นก็มีส่วนด้วยเช่นกัน
ผลกระทบของ Synod of Whitby | |
---|---|
การรวมศาสนาใน England | |
การพัฒนาทางวัฒนธรรมและการศึกษา | |
เริ่มต้นของความขัดแย้งระหว่างชาวโรมันกับชาวไอริช |
การตัดสินใจของพระเจ้าออสตริด ส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อประวัติศาสตร์อังกฤษ
1. การรวมศาสนาใน England: การเลือกแบบแผนของชาวโรมันเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับการรวมศาสนา Chrisitianity ใน England และทำให้เกิดความสามัคคีทางศาสนาในระดับหนึ่ง
2. การพัฒนาทางวัฒนธรรมและการศึกษา: การมีอิทธิพลของศาสนาชาวโรมัน นำไปสู่การแพร่กระจายของศาสนา Chrisitianity และทำให้เกิดการก่อตั้งสำนักสงฆ์และมหาวิทยาลัย
3. เริ่มต้นของความขัดแย้งระหว่างชาวโรมันกับชาวไอริช: ในขณะที่ Synod of Whitby มีส่วนสำคัญในการรวมศาสนา Chrisitianity ใน England ก็เป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้งระหว่างชาวโรมันกับชาวไอริช ซึ่งความขัดแย้งนี้ยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายศตวรรษ
Synod of Whitby ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์อังกฤษโบราณ เพราะว่าทำให้เกิดการรวมศาสนา Chrisitianity และการพัฒนาทางวัฒนธรรมและการศึกษา อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของพระเจ้าออสตริด ก็ยังเป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้งระหว่างชาวโรมันกับชาวไอริช
ถึงกระนั้น Synod of Whitby ก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าศาสนาสามารถมีอิทธิพลอย่างมากต่อการเมือง วัฒนธรรม และสังคมในยุคกลาง